จัดฟันบางนา: รู้ก่อนทำ รากฟันเทียมหลายคนที่มีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันก็อยากจะแก้ไขปัญหาฟันด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพและสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด แต่การแก้ไขปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันนั้น เราจะต้องมีการศึกษาข้อมูลว่าปัญหาของคุณนั้นสามารถแก้ไขด้วยวิธีการใด จากนั้นควรปรึกษากับทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้ารับการแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างตรงจุด เช่นเดียวกับการรักษาด้วยการ ผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องศึกษารายละเอียดให้แน่ใจและมีการปรึกษาทันตแพทย์ร่วมด้วย ซึ่งการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมในปัจจุบันนั้น
เป็นการแก้ไขปัญหาการสูญเสียฟันเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติโดยรากฟันเทียมจะทำมาจากวัสดุที่มีความคงทนแข็งแรง สามารถเข้ากับร่างกายมนุษย์ได้ดี มีรูปร่างคล้ายกับรากฟัน ทำการฝังลงไปบนกระดูกฟันหรือกระดูกขากรรไกรที่ใช้รองรับรากฟันเทียม เพื่อช่วยให้รากฟันเทียมยึดติดแน่นและไม่เกิดการขยับ ทั้งนี้ยังสามารถใช้งานได้เทียบเท่ากับฟันธรรมชาติได้อย่างดีโดยไม่มีปัญหาในเรื่องของการรับประทานอาหารหรือการพูดคุยก็สามารถออกเสียงได้ชัดเจน ทั้งยังช่วยเสริมสร้างในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการรักษาได้เป็นอย่างดีไม่ทำให้เกิดปัญหาเหงือกอักเสบ ปัญหาเหงือกร่น ช่วยให้ผู้เข้ารับการรักษามีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ เสริมสร้างความมั่นใจได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับใครที่ต้องการรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียมควรที่จะต้องศึกษาข้อมูลและปรึกษากับทันตแพทย์ เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาให้ตรงกับปัญหาสภาพฟันของผู้เข้ารับการรักษาว่าเหมาะสมที่จะเข้ารับการรักษาแบบใดหรือทำการฝังรากฟันเทียมในรูปแบบใด
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ก่อนการเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องศึกษาข้อมูลในเรื่องใดบ้าง ก่อนเข้ารับการรักษาโดยปกติแล้วผู้ที่จะเข้ารับการรักษาฝังรากฟันเทียม คือผู้ที่มีการสูญเสียฟันธรรมชาติไป และมีความต้องการที่จะกลับมามีฟันที่สามารถบดเคี้ยวอาหารได้ดี หรือทดแทนฟันที่เหลืออยู่ และต้องการมีรอยยิ้มที่มั่นใจสามารถพูดคุย พบปะผู้คน เข้าสังคมได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น โดยทั่วไปแล้วการเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม สามารถทำได้ทุกคนและไม่มีการกำหนดช่วงอายุ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้างที่ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด สำหรับผู้ที่เหมาะสมที่จะเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม จะต้องเป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีหรือผู้ที่มีกระดูกขากรรไกรเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว และการฝังรากฟันเทียม ไม่ควรทำในหญิงตั้งครรภ์ เพราะควรรอให้คลอดบุตรเสียก่อน
นอกจากนี้หากผู้เข้ารับการรักษามีโรคประจำตัวบางอย่างเช่น โรคเบาหวาน ที่เสี่ยงต่อการเลือดไหลไม่หยุดขณะการผ่าตัดหรือภายหลังจากการผ่าตัด ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ต้องได้รับการฉายรังสีบริเวณใบหน้า ผู้ป่วยโรคปริทันต์อักเสบรุนแรง ผู้ป่วยลูคีเมีย หรือผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน ไม่เหมาะสมที่จะเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เพราะเนื่องจากโรคประจำตัวมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายหรือภาวะแทรกซ้อน ขณะการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมและภายหลังจากฝังรากฟันเทียม เสร็จแล้วอาจจะทำให้เกิดอัตราความล้มเหลวเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้รวมไปถึงผู้ที่มีพฤติกรรมการสูบบุหรี่จากซึ่งการสูบบุหรี่นั้ นส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและฟันโดยตรงซึ่งก็จะส่งผลต่อความสำเร็จในการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม และผู้ป่วยที่มีอาการไขข้ออักเสบรุนแรง ผู้ป่วยจิตเภทหรือผู้ป่วยพี่มีปัญหาในเรื่องของการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหรือผู้ป่วยที่ไม่สามารถดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันด้วยตัวเองได้ นี่คือข้อมูลที่เราควรศึกษาว่าความเหมาะสมในการฝังรากฟันเทียมนั้นจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
และอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญที่เราควรศึกษาและรู้ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม คือจะต้องรู้ว่ารากฟันเทียมทำมาจากอะไร มีลักษณะอย่างไร และประเภทของรากฟันเทียม ที่เหมาะสมกับสภาพช่องปากและฟันรวมไปถึงปัญหาของผู้เข้ารับการรักษาว่ามีความเหมาะสมที่จะใช้รากฟันเทียมประเภทใด เรามาดูข้อแรกกันว่ารากฟันเทียมทำมาจากอะไร รากฟันเทียมนั้นทำมาจากโลหะไททาเนี่ยม ที่มีความแข็งแรงและสามารถเข้ากับร่างกายมนุษย์ได้ดี มีลักษณะคล้ายสกรู ที่จะฝังลงไปบนกระดูกขากรรไกร ต่อมาประเภทของรากฟันเทียมมีด้วยกันหลายรูปแบบ ซึ่งทำให้รู้สึกเหมือนกับฟันธรรมชาติมากที่สุด
โดยประเภทของรากฟันเทียมในแต่ละชนิดนั้นได้แก่ รากฟันเทียมแบบผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เป็นการฝังรากฟันเทียม ที่ได้รับความนิยมมากเพราะเป็นการฝังรากฟันเทียม ลงบนขากันไกลโดยตรงและมีอายุการใช้งานที่นานและดูแลรักษาง่าย ได้ด้วยการแปรงฟันตามปกติและอีกประเภทหนึ่งก็คือรากฟันเทียมแบบหลอมเนื้อโลหะเป็นโครง แล้วนำมาติดบนขากรรไกรใต้เนื้อเยื้อ ซึ่งเป็นการหลอมเนื้อโลหะให้เป็นโครงสร้างเดียวกับเหงือก และนำมาติดบนขากรรไกรเมื่อเหงือกฟื้นฟูสภาพจนหายดี โครงนั้นก็จะติดสนิทอยู่กับกระดูกขากรรไกรแล้วจึงนำการปลูกถ่ายฟันปลอม และเรื่องสุดท้ายที่ควรศึกษานั่นก็คือค่าใช้จ่ายในการฝังรากฟันเทียม ซึ่งการทำรากฟันเทียมในปัจจุบันนั้น จะมีค่าใช้จ่ายหรือราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของรากฟันเทียมที่เราจะนำมาใช้ในการรักษา
อย่างไรก็ตามการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมนั้น ทางคลินิกเรามีทันตแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของรากฟันเทียม คอยให้คำแนะนำ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ของทางคลินิกที่จะคอยแนะนำและมีการวางแผนในเรื่องของค่าใช้จ่ายให้กับผู้ที่สนใจ เพราะฉะนั้นหากต้องการรักษาโดยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมสามารถขอคำแนะนำจากทางเราได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายซึ่งมั่นใจได้ว่าจะทำให้คุณมีความประทับใจในการเข้ารับ