ผู้เขียน หัวข้อ: รวมวิธีแก้แฮงค์ ดื่มหนักอย่างไร ไม่ให้เมาค้างในตอนเช้า  (อ่าน 61 ครั้ง)

siritidaphon

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 208
    • ดูรายละเอียด
ชาวออฟฟิศหรือคนวัยทำงานที่เป็นสายปาร์ตี้ดื่มหนักกลางคืน รุ่งเช้าแบกร่างอันพังพินาศไปทำงาน ยุคนี้หลายคนเป็นแบบนี้ทั้งนั้น เพราะวัยทำงานคือวัยที่พร้อมทั้งกำลังเงินและกำลังกาย ไม่แปลกใจที่คนวัยนี้จะใข้ชีวิตแบบจัดหนักจัดเต็ม เข้าสโลแกนฮอตฮิต Work Hard, Play HARDER! หารู้ไม่ว่า พฤติกรรมแบบนี้นานเข้าอาจะนำพาร่างกายไปสู่ความพังแบบถาวร


พฤติกรรมอะไรบ้างสำหรับพนักงานออฟฟิศที่จะทำให้ร่างกายแย่

   
1. สายกิจกรรม
    วัยทำงานโดยเฉพาะพนักงานออฟฟิศจะรู้ว่า เมื่อได้ก้าวเข้าออฟฟิศแล้วนั่นหมายความว่า เวลาของความหัวหมุนได้เริ่มขึ้นแล้ว ตั้งแต่เช้ายันเย็น บางคนทำงานจนลืมมื้อกลางวันไปเลยก็มี กะรวบไปทีเดียวเลยตอนเย็น นั่นไม่ดีต่อร่างกายแน่ ๆ พอถึงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน แป๊ปเดียวก็หมดวันหยุด ถึงวันจันทร์ก็ต้องตื่นไปทำงาน แทบไม่มีวันไหนที่จะได้พักผ่อนนอนอยู่บ้านเฉย ๆ เลย
   
2. นอนน้อย แต่นอนนะ
    อีกหนึ่งพฤติกรรมเสี่ยงร่างพังก็ประเภททำงานเช้ายันเย็น เลิกงานปุ๊บก็แวะไปเที่ยวเล่นก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน เช้าก็ตื่นมาทำงาน วนลูปแบบนี้ไป ทุกวัน ทุกวัน นอนพอบ้าง ไม่พอบ้าง
   
3. สายกินไม่เลือก
    กิจกรรมประจำออฟฟิศยอดฮิตอีกอย่างก็คือ ปาร์ตี้อาหาร ปาร์ตี้ขนม นม เนย ในออฟฟิศ มีบุฟเฟ่ต์อะไรใหม่ที่ไหน ไม่เคยพลาด ชานมต้องมีติดมือไว้ทุกวันหลังข้าวเที่ยง ตามใจปาก กินแบบไม่เลือก


3 พฤติกรรมเสี่ยงเหล่านี้ นานวันเข้าร่างกายอาจจะพังได้ ไม่เพียงแต่ร่างกายพัง มันอาจจะนำพาเราไปสู่โรคร้ายแรงได้ในอนาคต

พฤติกรรมของสาย Work Hard, Play Harder ชอบสังสรรค์และหลงรักบรรยากาศในวงเหล้า ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแค่ไหนก็ตาม แต่ตกเย็นกำลังวังชามาจากไหนก็ไม่รู้ สังสรรค์ต่อจนเกือบเช้า มาถึงที่ทำงานก็ปวดหัวเพราะแฮงค์ ทำไมถึงแฮงค์ การดื่มแอลกอฮอล์มันเข้าไปทำอะไรให้ร่างกายเรารู้สึกแบบนี้ รู้ใจจะอธิบายเรื่องนี้ให้ฟัง

การดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์อย่างไรบ้าง?

แอลกอฮอล์หรือ Etanol Alcohol เป็นสารกดประสาทส่วนกลาง ทำให้กล้ามเนื้อของเรารู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป แต่เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปมาก ๆ เกินกว่าปริมาณที่ร่างกายรับได้ ร่างกายจะทำทุกทางที่จะขจัดแอลกอฮอล์ออกไป โดยอวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากแอลกอฮอล์โดยตรงคือ ตับ แต่ไม่ใช่แค่ตับที่ได้รับพิษจากการดื่มแอลกอฮอล์ มันยังส่งผลไปยังอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายของเราอีกด้วย เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย ไหลเข้าไปในกระแสเลือด เจ้าแอลกอฮอล์นี้จะไหลเวียนทั่วร่างกายและส่งไปยังสมองของเราโดยสมองจะดูดซึมแอลกอฮอล์เข้าไปและกระจายไปทั่วทุกส่วนของสมอง ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เหล่านี้

1.    สมองส่วนหน้า

สมองส่วนนี้มีหน้าที่ในการควบคุมการตัดสินใจ อารมณ์ ความคิด บุคลิกภาพ และสติ ถ้าร่างกายได้รับปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป จะส่งผลให้ขาดความยับยั้งชั่งใจ หรือที่เขาเรียกกันว่า “ดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติ” ทำให้การตัดสินใจช้าลงหรือตัดสินใจผิดพลาด มีบุคลิกที่เปลี่ยนไป มีความกล้ามากขึ้น ในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ทุกวัน เมื่อสมองส่วนหน้าถูกทำลายจะส่งผลให้พฤติกรรมของคนนั้นเปลี่ยนไป จากที่เคยเข้าสังคมได้ นานวันเข้าจะรู้สึกว่าตัวเองผิดปกติในการเข้าสังคม


2.    สมองส่วนความจำ

สมองส่วนความจำทำหน้าที่เก็บความทรงจำของเรา ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำที่ดีหรือไม่ดี สมองส่วนนี้จะทำหน้าที่ในการเก็บรักษาความทรงจำเหล่านั้น เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปและสมองได้ดูดซึมเข้าไปสู่ส่วนของความทรงจำ ในบางครั้งความทรงจำร้าย ๆ ที่เราลืมมันไปแล้วจะกลับมา ทำให้เรามักจะเห็นหลายๆ คนที่เวลาดื่มและมีอาการเมาจนร้องไห้ เศร้า นั่นก็เพราะสมองส่วนนี้ได้รับแอลกอฮอล์เข้าไป ในผู้ที่ติดแอลกอฮอล์ สมองส่วนนี้จะถูกทำลายเป็นสาเหตุให้เกิดโรคความจำเสื่อม หรือในบางครั้งที่เรามีอาการเมามาก ๆ พอตื่นขึ้นมาแล้วจำอะไรไม่ได้เลย นี่เป็นสัญญาณว่า สมองส่วนความจำเริ่มได้รับผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์


3.    สมองส่วนไฮโปทาลามัส

ไฮโปทาลามัสมีหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ความดัน การเต้นของหัวใจ ความหิว อิ่ม หรือการนอนหลับ เมื่อสมองส่วนนี้ได้รับแอลกอฮอล์จะทำให้เกิดอาการหิว กระหายน้ำ หัวใจเต้นเร็ว ความดันแปรปรวน และทำให้คุณภาพในการนอนของเราลดลง


4.    สมองส่วนเซรีเบลลัม

ทำหน้าที่ควบคุมการทรงตัว เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปจะสังเกตได้ว่าการทรงตัวของเราเริ่มจะไม่ปกติ บางคนเดินเซ บางคนมือไม้อ่อนไม่มีแรง บางคนนั่งตัวตรง ๆ ไม่ได้ ต้องโยกไปมา ผู้ที่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรังจึงมีปัญหาเรื่องการทรงตัวร่วมด้วย


5.    ก้านสมอง

ก้านสมองทำหน้าที่ควบคุมการส่งข้อมูลเปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการของร่างกาย ที่คอยควบคุมส่งข้อมูลไปยังอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายของเรา เมื่อร่างกายได้รับปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากเกินไป จะส่งผลให้คุณภาพการรับรู้และตอบสนองต่าง ๆ ลดลง


6.    ก้านสมองส่วนท้ายหรือเมดัลลา

เมดัลลาทำหน้าที่มีอำนาจเหนือจิตใจเกี่ยวกับการควบคุม การหายใจ การเต้นของหัวใจ ความดัน และการอาเจียน เมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป บางคนก็จะอาเจียนออกมา หากดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจนร่างกายจะรับไม่ไหวอาจถึงขั้นหมดสติและเสียชีวิตได้เลย

เมื่อได้ทราบแล้วว่าอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น อาเจียน ปวดหัว เดินเซ ร้องไห้ หลังจากที่เราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปนั้นเกิดจากแอลกอฮอล์ได้ถูกดูดซึมเข้าไปสู่สมองส่วนต่าง ๆ ทำให้เกิดอาการเหล่านี้ และเมื่อตื่นนอนขึ้นมาอาการเหล่านี้ก็ยังหลงเหลืออยู่หรือที่เรียกกันว่า “อาการเมาค้าง” หรือแฮงค์ อาการเมาค้างของแต่ละคนจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน แต่เมื่อมีอาการเหล่านี้ เราควรทำอย่างไร?


วิธีแก้แฮงค์หรือวิธีแก้อาการเมาค้าง สามารถทำได้อย่างไร?

อาการเมาค้างเกิดขึ้นจากการที่แอลกอฮอล์เข้าสู่ร่างกาย แอลกอฮอล์จะเปลี่ยนไปอยู่ในรูปของ อะซิตัล แอลดีไฮด์ ซึ่งมีพิษต่อเซลล์ในร่างกาย ทำให้ร่างกายเกิดการขาดน้ำ ส่งผลให้เสียความสมดุลของฮอร์โมน เกิดการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาท ทำให้เกิดอาการเมาค้าง แต่หากเกิดอาการเมาค้างแล้ว ลองทำวิธีต่อไปนี้ดู :

    หลังตื่นนอน ให้ดื่มน้ำเปล่า 1-2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายขับแอลกอฮอล์ที่ตกค้างอยู่ออกทางปัสสาวะ
    ดื่มกาแฟดำหรือชาร้อน คาเฟอีนในกาแฟและชาจะไปกระตุ้นให้เราตื่นตัว และมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะอ่อน ๆ
    รับประทานอาหารอ่อน ๆ เช่น ข้าวต้ม แกงจืด จะแก้แฮงค์หรือช่วยบรรเทาอาการเมาค้างได้
    ดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวหรือน้ำผึ้งเพียว ๆ 1 ช้อนชา ในน้ำผึ้งมีน้ำตาลฟรุกโตส สามารถช่วยแก้แฮงค์หรืออาการเมาค้างได้
    ดื่มน้ำเกลือแร่หรือน้ำผักผลไม้ เพราะน้ำเกลือแร่และน้ำผักผลไม้จะมีวิตามินที่ร่างกายต้องการ เพราะร่างกายขาดเกลือแร่และวิตามินหลังจากดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเป็นจำนวนมาก น้ำเกลือเเร่และน้ำผักผลไม้สามารถช่วยแก้แฮงค์หรืออาการเมาค้างได้
    น้ำขิงร้อน ๆ หรือชามิ้นต์ช่วยลดอาการคลื่นไส้ บรรเทาอาการอาเจียนในตอนเช้าได้
    ทานกล้วยหอม เพราะในกล้วยหอมมีโพแทสเซียม ช่วยป้องกันอาการขาดน้ำ และช่วยขับสารตกค้างในร่างกาย
    ทานอาหารเสริม เช่น วิตามินบีรวม แมกนีเซียม กรดอะมิโนแอล-ชีสเทอีน มีส่วนช่วยบรรเทาอาการเมาค้าง
    ทานใบโหระพา นำใบโหระพามาขยำหรือบดพอแหลกและนำไปผสมกับน้ำร้อน ทำเป็นชา ทิ้งไว้ประมาณ 5-7 นาที กรองเอาแต่น้ำมาดื่ม จะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้

จากการวิจัยไม่มีรายงานใด ๆ ในโลกนี้ระบุได้ว่า วิธีเหล่านี้จะช่วยแก้แฮงค์หรืออาการเมาค้างได้ 100% การที่จะไม่ให้เกิดอาการเมาค้างเลยคือ ควรดื่มแอลกอฮอล์แต่พอดี

รวมวิธีแก้แฮงค์ ดื่มหนักอย่างไร ไม่ให้เมาค้างในตอนเช้า อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/

 

ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google โฆษณาฟรี ประกาศฟรี ขายฟรี ลงประกาศขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทเว็บไซต์ฟรี